สร้าง Content แบบไหนโดนใจผู้ซื้อแต่ละช่องทาง

Posted by

1.Facebook เป็นช่องทางที่เชื่อว่าผู้ขายออนไลน์เลือกใช้กันเป็นช่องทางแรกๆ เพราะเป็นช่องทางที่มีคอนเทนต์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ คลิปวิดีโอ

ฉะนั้นการทำคอนเทนต์ในเฟซบุ๊กจะไม่ตายตัว จะเป็นรูปแบบใดก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องกระตุ้นให้คนเห็นแล้วอยากแชร์หรือส่งต่อไปให้มากที่สุด และจะต้องเชื่อมโยงกับสินค้าที่ขายด้วย ยกตัวอย่างเช่น สร้างคอนเทนต์อัลบั้มภาพรวม 10 โต๊ะเก้าอี้ทำงาน นั่งสบ๊ายสบาย WFH นี้ต้องมี โดยในแต่ละภาพจะต้องระบุรายละเอียดสินค้าอย่างละเอียด ใส่รูปที่สวยงามน่าสนใจ

พร้อมแนบลิงก์ช่องทางการซื้อเลยใน Description เพื่อให้สะดวกกับผู้ซื้อมากที่สุด  หรืออาจทำวิดิโอ Content รีวิวที่น่าสนใจจนทำให้ผู้ซื้อที่ผ่านไปผ่านมาต้องกดแชร์ก็ได้

2.Instagram แน่นอนว่าทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า Instagram เป็นช่องทางการเล่าเรื่องผ่านรูปภาพหรือวิดิโอ ผู้ซื้อจะเห็นรูปภาพก่อนคำบรรยายด้านล่าง

ดังนั้น ผู้ขายที่เลือกทำ Content ผ่านช่องทางนี้จะต้องให้ความสำคัญกับรูปภาพหรือวิดิโอออย่างมาก เพื่อให้ผู้ซื้อสะดุดตาและไม่เลื่อนผ่านสินค้าของผู้ขายท่ามกลางรูปภาพมากมายที่ขึ้นมาในฟีดของผู้ซื้อ

โดยสิ่งที่จะช่วยให้รูปหรือวิดิโอของสินค้าของผู้ขายมีความโดดเด่น คือการจัดองค์ประกอบ การแต่งสีที่พอดี ไม่ทำให้สีของสินค้าดูผิดเพี้ยนจนเกินไป การจัดแสง และการใช้กล้องที่มีคุณภาพ เพื่อให้ภาพคมชัด ไม่แตกนั่นเอง

3.Twitter จุดเด่นของ Twitter คือมาไว ไปไว เน้นเทรนด์ปัจจุบันทันด่วน ดังนั้น หากผู้ขายอยากใช้การเล่าเรื่องผ่าน Twitter จะต้องอิงกระแสที่คนส่วนใหญ่กำลังสนใจอยู่ ณ เวลานั้นๆ และควรใช้แฮชแท็ก (#) เพื่อให้ผู้ซื้อที่กำลังติดตามกระแสนั้น เห็นทวิตของผู้ขายด้วย

อย่างไรก็ตาม Twitter เป็นช่องทางที่มีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ ทั้งจำกัดจำนวนตัวอักษร จำกัดจำนวนรูปภาพ ดังนั้นช่องทางนี้อาจจะไม่ได้เป็นช่องทางที่สามารถปิดการขายได้ง่ายนัก แต่จะเป็นช่องทางที่ทำให้คนรู้จักสินค้าของเรามากขึ้นนั่นเอง

4.TikTok ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นช่องทางที่มาหลังที่สุด แต่มาแรงแซงโค้งมากจริงๆ ด้วยลักษณะสำคัญของ TikTok คือ คลิปวิดีโอสั้นๆ 15 วินาที เน้นความสนุกสนาน ตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบดูอะไรยาวๆ และตอบโจทย์เด็กยุคใหม่ที่สนใจรับข้อมูลขนาดสั้นๆ ง่ายๆ ทำให้เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด

ดังนั้น ผู้ขายจึงไม่ควรมองข้ามช่องทางนี้ ควรใช้ช่องทางนี้ในการสร้างการรับรู้และการจดจำให้คนรู้จักสินค้าของเรา โดยอาจใส่เพลงหรือทำตาม Challenge ต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่เพื่อให้คนกดไลค์มากขึ้น ทำให้คนเห็นสินค้าในวงกว้างมากขึ้น